วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33: โครงการรถคันแรก

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ได้เริ่มขึ้นแล้วที่เมืองทองธานี รายละเอียดการจัดงานในวันต่างๆ มีดังนี้


วัน เวลาการจัดงาน: วันที่ 26 มีนาคม - 8 เมษายน 2555
วันวีไอพี: วันที่ 26 มีนาคม 2555 / เวลาเปิด 12.00 น. เวลาปิด 20.00 น.
วันสื่อมวลชนและพิธีเปิด: วันที่ 27 มีนาคม 2555 / เวลาเปิด 09.59 น. เวลาปิด 18.00 น
วันแสดงงาน: วันที่ 28 มีนาคม– 8 เมษายน 2555
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลาเปิด 11.00 น. เวลาปิด 22.00 น.
วันธรรมดา เวลาเปิด 12.00 น. เวลาปิด 22.00 น.


      ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นรถยนต์คันแรกตามนโยบายรัฐบาล รายละเอียดเพิ่มเติมที่ website ของกรมสรรพสามิตครับ สำหรับรถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัวกันไม่นานมานี้ ไม่ว่าจะเป็น suzuki swift, nissan almera, mitsubishi mirage ทางกรมสรรพสามิตได้เพิ่มรายละเอียด ว่ารถแต่ละรุ่นจะไ้ด้เงินภาษีคืนเท่าไร สามารถดูได้ที่ ข้อมูลยอดเงินสนับสนุนสำหรับรถยนต์คันแรก สำหรับรถยนต์นั่ง สำหรับของรถกระบะ ให้ดูในหัวข้อ สอบถามข้อมูลยอดเงินสนับสนุนสำหรับรถยนต์คันแรก (PDF File) ใน link ของกรมสรรพสามิตได้เลยครับ


     มีโปรโมชั่นแบบนี้ น่าสนใจจนต้องไปออกรถกันเลยหรือเปล่า ??? ลองมาดูกันครับ

     ก่อนอื่นท่านจะต้องมีคุณสมบัติ ตามที่ทางกรมสรรพสามิตระบุไว้
           อายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
           เป็นรถยนต์ใหม่คันแรก ที่ซื้อตั่งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2555 (ถ้าจำไม่ผิด จะต้องโอนก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2555 นะครับ )
           ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี
           จะได้รับเงินคืนหลังจากถือครองรถครบ 1 ปี
           ขนาดของเครื่องรถยนต์จะต้องไม่เิิกิน 1,500 cc.
     รายละเอียดเพิ่มเติม ตาม link นี้เลยครับ

     เรามาลองดูค่าใช้จ่ายต่างๆกันดูครับ ว่ามีอะไรบ้าง

     การซื้อรถโดยวิธีการกู้ วิธีคำนวณเงินกู้สำหรับรถยนต์จะเป็นแบบ Flat Rate คือ ไม่ลดต้น ยกตัวอย่างเช่น New Mazda2 Elegance รุ่น Maxx ATราคา 695,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่น ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน จะคิดดอกเบี้ยที่ 2.35%

     ราคารถ 695,000 บาท ดาวน์ 25% หรือ 173,750 บาท จะเหลือยอดเท่ากับ 521,250 บาท
อัตราดอกเบี้ย 2.35% ผ่อน 48 เดือนหรือ  4 ปี ฉะนั้น
     ดอกเบี้ยทั้งหมด  (521,250*0.0235)*4 = 48,997.5 บาท (สำหรับรถใหม่ รู้สึกว่าไม่มีภาษี vat 7% นะครับ) และจะต้องผ่อนเดือนละ  (521,250+48,997.5)/48 = 11,880 บาท เป็นเวลา 4 ปี

     ถ้าเป็นไปได้ เก็บเงินซื้อแบบจ่ายสดครั้งเดียวจะดีกว่าครับ จะได้ไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยถึง 48,997.5 บาท

เมื่อคุณมีรถแล้ว ค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีเำพิ่มขึ้นคือ

      ประกันรถยนต์ ต้องจ่ายทุกปี ราคามีตั้งแต่ พันต้นๆไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับว่าจะทำประกันแบบไหน

      พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภัยพื้นฐานที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำ โดยมุ่งเน้นความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ จะใช้ยื่นประกอบการต่อภาษีรถยนต์ ราคาเิริ่มต้นที่ 500 กว่าบาท

      ภาษีรถยนต์ จ่ายทุกปี รายละเอียดในการคำนวณสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน จะมีอัตรา ดังนี้
          0-600cc cc ละ 0.50 บาท
          601 - 1,800cc cc ละ 1.50 บาท
          เกิน 1,800cc cc ละ 4.00 บาท
          Mazda2 มีขนาดของเครืองเท่ากับ 1,499 cc = (600*0.5)+(899*1.5)= 1,648.5 บาท
     ถ้าหากเป็นรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี ให้ได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปีในปีต่อ ๆ ไป ดังนี้
                    ปีที่ 6 ร้อยละ 10
                    ปีที่ 7 ร้อยละ 20
                    ปีที่ 8 ร้อยละ 30
                    ปีที่ 9 ร้อยละ 40
                    ปีที่ 10 และปีต่อ ๆ ไป ร้อยละ 50

    
     ค่าดูแลรักษาซ่อมบำุรุง ไม่ว่าจะเป็นตรวจcheck ตามระยะทาง หรือ ซ่อมเมื่อพบปัญหา ประมาณเกือบๆ 3,000 บาทต่อเดือน หรือคิดง่ายๆก็ปีละประมาณ 30,000 บาท  รถยิ่งเก่า ยิ่งต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้น

     ค่าน้ำมัน ขึ้นอยู่กับระยะทางการใช้งานกับระบบของรถยนต์ของท่าน ถ้าเ็ป็นระบบแก๊สก็จะถูกว่าน้ำมันแน่นอน หากคิดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงแบบระบบน้ำมัน ตามที่เคยมีคนรีวิว รถรุ่นนี้ไว้ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยของ mazda 2 จะอยู่ที่ประมาณ 15 กิโลเมตร/ลิตร คิดค่าน้ำมันง่ายๆ ลิตรละ 40 บาท (เบนซิน ออกเทน 91) ค่าใช้จ่ายน้ำมันจะอยู่ที่ กิโลเมตรละ 40/15 = 2.66 บาทโดยประมาณ คิดเฉลีี่ยการเดินทางแต่ละวันประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้รถทุกวัน ค่าน้ำมันต่อเดือนจะอยู่ที่ 2.66*40*30 = 3,192 บาท ต่อปีจะเท่ากับ 38,304 บาท

     รวมค่าใช้จ่ายต่อปี 
          ประกันชั้นหนึ่ง 10,000 บาท
          พ.ร.บ. รถยนต์ 500 บาท
          ภาษีรถยนต์ 1,648.5 บาท
          ค่าดูแลรักษาซ่อมบำุรุง 30,000 บาท
          ค่าน้ำมัน 38,304 บาท
     คิดเป็นจำนวณเงิน 80,452.5 บาทต่อปี  
     หรือมีค่าใช้จ่ายเรื่องรถยนต์เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 6,704 บาทต่อเดือน
     ถ้าเป็น 4 ปีแรกที่ยังต้องผ่อนรถอยู่ จะต้องจ่ายรวม 11,880+6,704 = 18,584 บาทต่อเดือน

ทีนี้ลองมาตอบคำถามข้างล่างนี้ดูนะครับ

     มีรถแล้วจะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ??
     มีรถแล้วจะทำให้ชีวิตเรามีัความปลอดภัยมากขึ้นหรือไม่ ??
     มีรถแล้วทำให้เรามีสุขภาพดีขึ้นหรือไม่ ??
     มีรถแล้วทำให้เราพบหน้าคนที่เรารัก พบหน้าครอบครัวเรามากขึ้นหรือป่าว ??
     มีรถแล้วทำให้คุณเป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ??
     มีรถแล้วทำให้คุณเดือนร้อนเรื่องการเงินหรือไม่ ??
     มีรถแล้วทำให้คนรอบๆตัวคุณเดือดร้อนเรืองเงินหรือไม่ ??

     คำถามข้างต้นอยากจะชี้ให้เห็นว่า ก่อนจะซื้อรถ เราควรเข้าใจตัวเราเองให้ดีก่อน ว่าจะซื้อรถมาเพื่ออะไร เป็นคำถามที่จะต้องตอบให้ได้ก่อนครับ
      ท่านผู้หญิงที่จะต้องเดินทางไปทำงานช่วงเช้ามืดหรือกลับบ้านตอนที่ดึกแล้ว หรือจะต้องเดินทางผ่านเส้นทางที่เปลี่ยว มีรถแล้วคงทำใ้ห้คุณปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น
      บางท่านมีรถแล้ว สามารถหาลูกค้าได้มากขึ้น เสนองานให้ลูกค้าได้มากขึ้น ก็มีความน่าจะเป็นที่จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
       บางท่านไปทำงานออกจากบ้าน ตี 5 กลับมาถึงบ้าน 3 ทุ่ม แต่ถ้ามีรถ ออกจากบ้าน 6 โมงครึ่ง ถึงบ้าน ทุ่มครึ่ง มีเวลาเพิ่มมากขึ้น วันละ  3 ชั่วโมง จะได้มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเองเพิ่มมากขึ้น มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นด้วย
       
     หากตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน ว่าต้องการรถไปเพื่ออะไร โปรโมชั่นรถคันแรก ผมถือว่าเป็น โบนัส สำหรับคนที่พร้อมและต้องการจะมีรถจริงๆครับ สำหรับท่านใดที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรถมาเพื่ออะไร และตัดสินใจซื้อรถช่วงนี้เพราะต้องการได้โปรโมชั่นรถคันแรก ผมไม่เห็นด้วยนะครับ

     แน่นอนครับ มีรถเป็นของตัวเอง ย่อมสะดวกกว่าโดยสารรถยนต์สาธารณะอยู่แล้ว แต่อย่าให้ความสะดวกสบายมาปิดบังข้อเทจจริงอื่นๆที่จำเป็นต้องพิจารณานะครับ ถ้าคุณมีความพร้อมทางการเงินอยู่แล้ว ตัดสินใจไม่ยากครับ แต่ถ้าการเงินยังไม่พร้อม คิดให้หนักครับ

รายรับ-รายจ่ายของคุณ คุณรู้ดีที่สุดครับ.

จ่ายเงินแต่ละครั้ง พิจารณาให้รอบคอบ แล้วค่อยตัดสินใจครับ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น