วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555

โครงการ กรุงไทยช่วยผู้ประสบอุทกภัย ใจดี ฟรีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

          บทความก่อนหน้านี้ ได้เขียนถึง โปรโมชั่นกู้ซื้อบ้าน แบบไหนคุ้มที่สุด ซึ่งได้กล่าวถึงรายละเอียดของทางธนาคารกรุงไทยไว้ไม่มาก เนื่องจากทาง website ของธนาคารยังไม่มีรายละเอียดมากนัก


          ตอนนี้รายละเอียดได้ออกมาแล้วนะครับ กับโครงการ “กรุงไทยช่วยผู้ประสบอุทกภัย” แถมยังใจดี ฟรีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าประเมินหลักทรัพย์,ค่าบริการทำนิติกรรมจำนอง ฯลฯ โดยทางธนาคารกรุงไทยจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ 3% ต่อปี นาน 5 ปี ในวงเงิน 1 ล้านบาทแรก สำหรับบุคคลธรรมดาที่ขอสินเชื่อเพื่อซื้อ ซ่อม สร้าง ตกแต่ง ต่อเติมบ้าน  หรือ Re-Finance กับธนาคาร   หรือเพื่อใช้จ่ายอเนกประสงค์ใดๆ ตามต้องการ  สำหรับธุรกิจ SME ยังให้วงเงินสูงถึง 30 ล้านบาท ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ของธนาคารแห่งประเทศไทย (โครงการ Soft Loan BOT) 
          รายละเอียดเพิ่มเติมที่โครงการ “กรุงไทยช่วยผู้ประสบอุทกภัย” หรือจะโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ธนาคารกรุงไทย 1551 ได้เลยนะครับ

         ได้ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ แบบนี่ น่าสนใจทีเดียวครับ

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

สินเชื่อบ้านกสิกรไทย กับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 6 แบบ แบบไหนคุ้มที่สุด

        
         สินเชื่อบ้านกสิกรไทย  (K-Home Loan) จะมีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 6 แบบ ดังนี้
               แบบที่ 1  อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1 ปีแรก 2.00%
               แบบที่ 2  อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 4.50%
               แบบที่ 3  อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก 5.25%
               แบบที่ 4  อัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษ 1 ปีแรก MLR - 5.25%
               แบบที่ 5  อัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษ 2 ปีแรก MLR-2.75%
               แบบที่ 6  อัตราดอกเบี้ยลอยตัวพิเศษ 3 ปีแรก MLR- 2.00%
         โดยหลังจากระยะเวลาข้างต้น คิดอัตราดอกเบี้ย MLR สำหรับที่อยู่อาศัยทั่วไป หรือ คิดอัตราดอกเบี้ย MLR สำหรับอาคารพาณิชย์ จนสิ้นสุดอายุสัญญา


          โดยเราจะลองมาดูกันว่า แบบไหน จะคุ้มค่าที่สุด โดยจะคำนวณใน excel คิดจากเงินกู้ 2 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 20 ปี (ไม่มีดาวน์นะครับ) ใช้อัตราดอกเบี้ย MLR อ้างอิงจากธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ 23 เมษายน 2555 ของธนาคารกสิกรไทย ใช้ 7.13 โดยจะคำนวณดูว่าหลังจากผ่อนครบ 20 ปีแล้ว เราจะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยในแต่ละแบบไปทั้งหมดเท่าไร

แบบที่ 1 ชำระรวมทั้งหมด    3,627,902
        ดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    1,627,902

แบบที่2  ชำระรวมทั้งหมด    3,629,897
        ดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    1,629,897

แบบที่3  ชำระรวมทั้งหมด    3,623,839
        ดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    1,623,839

แบบที่4  ชำระรวมทั้งหมด    3,624,706    (MLR - 5.25% = 7.13 - 5.25 = 1.88)
        ดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    1,624,706

แบบที่5  ชำระรวมทั้งหมด    3,623,912    (MLR - 2.75% = 7.13 - 2.75  = 4.38)
        ดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    1,623,912

แบบที่6  ชำระรวมทั้งหมด    3,615,146    (MLR - 2.00% = 7.13 - 2 = 5.13)
        ดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    1,615,146

          หลังจากคำนวณแล้ว แบบที่6 จ่ายดอกเบี้ยน้อยที่สุด 
          ตามมาด้วย แบบที่3 และแบบที่ 5 ซึ่งห่างกันแค่หลักร้อยเท่านั้น
          แบบที่ 4
          แบบที่ 1
          และแบบที่จ่ายค่าดอกเบี้ยมากสุดคือ แบบที่ 2 ครับ
         


          จะเห็นว่า แบบที่ 6 เมื่อคำนวณจาก MLR 7.13 แล้ว จะได้ดอกเบี้ย 5.13 ทำให้ดอกเบี้ยรวมทั้งหมด น้อยที่สุด
           ฉะนั้น ถ้า MLR = 7.25 แบบที่ 3 และ แบบที่ 6 จะจ่ายดอกเบี้ยทั้งหมดเท่ากันครับ
           ถ้า MLR น้อยกว่า 7.25 แบบที่ 6 จะเป็นแบบที่จ่ายดอกเบี้ยทั้งหมดน้อยที่สุดครับ
           ถ้า MLR มากกว่า 7.25 แบบที่ 3 จะเป็นแบบที่จ่ายดอกเบี้ยทั้งหมดน้อยที่สุดครับ

          ก่อนจะเลือกอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 6 แบบ ของธนาคารกสิกรไทย ข้อมูลนี้คงจะช่วยให้คุณเลือกได้ง่ายขึ้นนะครับ

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

โปรโมชั่นกู้ซื้อบ้าน แบบไหนคุ้มที่สุด

     หลังจากที่ทางภาครัฐได้ออกโปรโมชั่น โครงการบ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมครับ แต่คนส่วนใหญ่ที่ไม่สามารถเข้ารวมโครงการนี้ได้ น่าจะติดตรงที่วงเงินกู้ที่ไม่เิกิน 1 ล้านบ้าน ซึ่งถ้าคุณซื้ออสังหาริมทรัพย์ ในราคา 1,500,000 บาท หลังจากหักเงินที่เราผ่อนดาว์นแล้ว ถ้าเราคิดจะเอาเงินก้อนไปโป๊ะ จนเหลือที่จะกู้ธนาคาร 1 ล้านบาท ก็ยังคงไม่สามารถเข้าโครงการนี้ได้นะครับ โดยธนาคารจะดูจากราคาหลักทรัพย์เป็นหลักครับ

    
     ถึงแม้ว่าจะพอมีข่าวดีอยู่บ้างที่ทางภาครัฐจะพิจารณาเพิ่มวงเงินกู้ แต่ท่านคงไม่สามารถรอจนโปรโมชั่นนี้ได้รับการอนุมัติ หากว่าอสังหาริมทรัพย์ของท่านสร้างเสร็จแล้ว หรืออยู่ในขั้นตอนการตรวจรับ

     ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์เอง ก็ได้มีอีกหนึ่งโปรโมชั่นครับ คือ กู้เงินโครงการพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน รายละเอียดดังนี้ครับ
          6 เืิดือนแรก ดอกเบี้ย 0%
          เืดือนที่ 7 ถึงเดือนที่ 24 ดอกเบี้ย MRR-2
          เริ่มต้นปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญา โดยจะแบ่งเป็น
               กรณีรายย่อยสวัสดิการ จะได้ดอกเบี้ย MRR-1
               กรณีรายย่อยทั่วไป จะได้ดอกเบี้ย MRR-0.5
               กรณีก้ชำระหนี้/ซื้ออุปกรณ์ จะได้ดอกเบี้ย MRR

     คลิ๊กเพื่อดูรายละเอียดโครงการพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือนเพิ่มเติมครับ
    
     และล่าสุดทางธนาคารกสิกรไทย และทางธนาคารกรุงไทยได้ออกโปรโมชั่น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยตำ่พิเศษจาก ธปท. (เพื่อผู้ประสบอุทกภัย) โดยที่ท่านจะต้องมีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดปี พ.ศ. 2554 ในเขตพี้นที่ที่มีการประกาศให้เป็นพี้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามประกาศกระทรวงการคลัง (ตรวจสอบเขตพื้นที่ ที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ท้ายบทความครับ) และให้เฉพาะผู้ที่ยื่นกู้ตั้งแต่ 10 มีนาคม 2555 ถึง 30 ธันวาคม 2556 หรือจนกว่า วงเงินสินเชื่อจะหมด ส่วนรายละเอียดโปรโมชั่นที่ท่านจะได้รับ คือ


          เงินกู้ 1 ล้านบาทแรก คิดดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปี
          วงเงินที่เกิน 1 ล้านบาท ได้รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 6 เดือน


          ซึ่งทั้งสองส่วน หลัีงจากผ่อนไป 6เืดือน หรือ 5 ปี แล้ว เราจะต้องเลือก อัตราดอกเบี้ยกับทางธนาคารกิสกรไทยว่าจะใช้โปรโมชั่นของธนาคารแบบไหนในการผ่อนต่อไป โดยท่านสามารถเลือกได้ตอนที่อยู่ในขั้นตอนการยื่นเรื่องกู้ครับ อีกทั้งยังมีการแบบเลือกผ่อนชำระอีก 3 แบบ ซึ่งหลังจากโทรไปสอบถามทาง K-Contact Center 02 888 8888 แล้ว 3 ครั้ง แนะนำว่าให้ไปนั่งคุยกับทางธนาคารที่สาขาเลย น่าจะให้รายละเอียดที่ครบถ้วนกว่านะครับ จะไปสอบถามรายละเอียดให้เข้าใจครบถ้วน แล้วกลับมานั่งคำนวณพิจารณาให้รอบครอบ แล้วค่อยกลับไปยื่นเรื่องขอกู้ก็ได้ครับ แต่ทางธนาคารบอกว่าให้รีบหน่อยนะครับ เพราะวงเงินใกล้จะหมดแล้ว (อันนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือป่าวนะ)

(ส่วน รายละเอียดของธนาคารกรุงไทย สอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center หมายเลข 1551 )

     เราจะลองมาดูกันว่าระหว่าง โปรโมชันกู้เงินโครงการพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ กับ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยตำ่พิเศษจาก ธปท. (เพื่อผู้ประสบอุทกภัย)ของธนาคารกสิกรไทย กับธนาคารกรุงไทย แบบไหนที่จะทำให้เราจ่ายดอกเบี้่ยน้อยกว่ากัน และผมจะลองเอาโปรโมชั่น ดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี มาคิดเล่นๆด้วยนะครับ เพราะวงเงินที่จะนำมาคำนวณนั้น มันเกินจากที่เค้ากำหนดไว้ แต่เผื่ออนาคตทางภาครัฐจะประกาศขยายวงเงินเพิ่มครับ

     โดยจะคิดจากเงินกู้ 1,500,000 บาท ระยะเวลากู้ 20 ปี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ใช้ MRR 7.125% (อ้างอิงข้อมูลจากทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่บอกไว้ว่า MRR = 7.25 ต่อปี ณ วันที่ 26 กันยายน 2554 แต่พอไปตรวจสอบกับ website ธนาคารแห่งประเทศไทย จะเห็นว่า MLR = 7.25% ส่วน MRR = 8% ฉะนั้น ผมจะเอาตัวเลข MLR ของวันที่ 17 เมษายน 2555 คือ 7.125 มาใช้ในการคำนวณนะครับ)



ทางธนาคารกสิกรไทยใช้ MLR 7.125 เช่นกันครับ และเนื่องจากรายละเอียดของทางธนาคารกสิกรไทยค่อยข้างเยอะ เราจะคำนวณง่ายๆโดยใช้
             เงินกู้ 1 ล้านบาทแรก คิดดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี นาน 5 ปี หลังจาก 5 ปี ใช้ MLR-0.25
             อีก 5 แสนบาท ได้รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 6 เดือน เืดือนที่ 7-12 คิด ดอกเบี้ย 5.5 เืดือน 13 จนครบกำหนด ใช้ MLR-0.25

     ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยเรื่องค่าธรรมเนียมหรือฟรีค่าบิรการต่างๆของแต่ละธนาคาร จะไม่ไ้ด้นำมาพิจารณาด้วยนะครับ จะพิจารณาเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยเท่านั้น โดยจะคำนวณใน excel และนำผลรวมของเงินที่ต้องชำระทั้งหมด กับ เงินค่าดอกเบี้ยทั้งหมดมาเปรียบเทียบกันนะครับ

     โปรโมชั่นแรก กู้เงินโครงการพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ คิดแบบกรณีสวัสดิการนะครับ หลังจากคำนวณแล้ว ผ่อนไป 20 ปี
         จะต้องชำระรวมทั้งหมด    2,520,302 บาท
         และเสียค่าดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    1,020,302 บาท


      โปรโมชั้นถัดไป คือโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยตำ่พิเศษจาก ธปท. (เพื่อผู้ประสบอุทกภัย) ของธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย โดยคำนวณจากข้อมูลที่กล่าวมาแล้วข้างต้นนะครับ ซึ่งหลังจากคำนวณ ทั้งส่วนที่เป็น 1 ล้านบาทและ ส่วนที่เกิน 1 ล้านบาทคือ 5แสนบาทแล้ว ผ่อนไป 20 ปี
          จะต้องชำระรวมทั้งหมด   2,497,601 บาท
          และเสียค่าดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    997,601 บาท


     สุดท้าย นำมาคำนวณให้ดูกันเล่นๆนะครับแพราะตอนนี้ยังไม่มีโปรโมชั่นนี้ให้เลือก และหวังว่าในอนาคตอันใกล้ คงจะมีให้เราได้ใช้บริการกันนะครับ คือ ของธนาคารอาคารสงเคราะ์ห์ โครงการบ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี 
ปีที่ 4 ถึง ปีที่7 คิดแบบอัตราสวัสดิการคือ ดอกเบี้ย 7.125-0.5
ปีที่ 8 เป็นต้นไป  คิดแบบอัตราสวัสดิการคือ ดอกเบี้ย7.125-1.0 หลังจากคำนวณแล้ว ผ่อนไป 20 ปี
          จะต้องชำระรวมทั้งหมด   2,308,023 บาท
          และเสียค่าดอกเบี้ยรวมทั้งหมด    808,023 บาท


       จะเห็นว่า โปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี (ที่ยังไม่มีในตอนนี้) ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ คุ้มที่สุด รองลงมาคือโปรโมชั้น โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยตำ่พิเศษจาก ธปท. (เพื่อผู้ประสบอุทกภัย) ของธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย และลำดับสุดท้ายคือ โครงการพิเศษ ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน ของธนาคารอาคารสงเคราะห์

        จากตัวเลข โปรโมชั่นที่ดีที่สุด กู้ 1,500,000 บาท ผ่อน 20 ปี เราจะเสียค่าดอกเบี้ยให้กับทางธนาคารถึง 808,023 บาท หรือประมาณ 53.78% ของเงินกู้ทั้งหมด เห็นตัวเลขแล้วก็สลดครับ

        ถ้าเ็ป็นไปได้ ผมสนับสนุน ให้ทำงานอย่างแข็งขัน เก็บเงินให้ได้มากๆ เื้ื่มื่อถึงช่วงเวลาที่จะต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซื้อเงินสดได้จะดีมากครับ  หรือไม่ก็ให้กู้ธนาคารน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามผ่อนให้หมดเร็วที่สุด ไม่เป็นหนี้ สบายใจที่สุดแล้วครับ










รายชื่อพื้นที่ประสบอุทกภัย ปี พ.ศ. 2554 ของกรุงเทพมหานคร
เขตพระนคร
พระบรมมหาราชวัง
วังบูรพาภิรมย์
วัดราชบพิธ
สำราญราษฎร์
ศาลเจ้าพ่อเสือ
เสาชิงช้า
บวรนิเวศ
ตลาดยอด
ชนะสงคราม
บ้านพานถม
บางขุนพรหม
วัดสามพระยา
เขตดุสิต
ดุสิต
วชิรพยาบาล
สวนจิตรลดา
สี่แยกมหานาค
ถนนนครไชยศรี
เขตหนองจอก
กระทุ่มราย
หนองจอก
คลองสิบ
คลองสิบสอง
โคกแฝด
คู้ฝั่งเหนือ
ลำผักชี
ลำต้อยติ่ง
เขตบางเขน
อนุสาวรีย์
ท่าแร้ง
หัวหมาก
เขตมีนบุรี
มีนบุรี
แสนแสบ
เขตลาดกระบัง
ลาดกระบัง
คลองสองต้นนุ่น
คลองสามประเวศ
ลำปลาทิว
ทับยาว
ขุมทอง
เขตยานนาวา
ช่องนนทรี
บางโพงพาง
เขตสัมพันธวงศ์
จักรวรรดิ
สัมพันธวงศ์
ตลาดน้อย
เขตพญาไท
สามเสนใน
เขตธนบุรี
วัดกัลยาณ์
หิรัญรูจี
บางยี่เรือ
บุคคโล
ตลาดพลู
ดาวคะนอง
สำเหร่
เขตบางกอกใหญ่
วัดอรุณ
วัดท่าพระ
เขตห้วยขวาง
ห้วยขวาง
บางกะปิ
สามเสนนอก
เขตคลองสาน
สมเด็จเจ้าพระยา
คลองสาน
บางลำภูล่าง
คลองต้นไทร
เขตตลิ่งชัน
คลองชักพระ
ตลิ่งชัน
ฉิมพลี
บางพรม
บางระมาด
บางเชือกหนัง
เขตบางกอกน้อย
ศิริราช
บ้านช่างหล่อ
บางขุนนนท์
บางขุนศรี
อรุณอมรินทร์
เขตบางขุนเทียน
ท่าข้าม
แสมดำ
เขตภาษีเจริญ
บางหว้า
บางด้วน
บางจาก
บางแวก
คลองขวาง
ปากคลองภาษีเจริญ
คูหาสวรรค์
เขตหนองแขม
หนองแขม
หนองค้างพลู
เขตราษฎร์บูรณะ
ราษฎร์บูรณะ
บางปะกอก
เขตบางพลัด
บางพลัด
บางอ้อ
บางบำหรุ
บางยี่ขัน
เขตดินแดง
ดินแดง
เขตบึงกุ่ม
คลองกุ่ม
นวมินทร์
นวลจันทร์
เขตสาทร
ทุ่งวัดดอน
ยานนาวา
ทุ่งมหาเมฆ
เขตบางซื่อ
บางซื่อ
วงศ์สว่าง
เขตจตุจักร
ลาดยาว
เสนานิคม
จันทรเกษม
จอมพล
จตุจักร
เขตบางคอแหลม
บางคอแหลม
วัดพระยาไกร
บางโคล่
เขตประเวศ
ประเวศ
หนองบอน
ดอกไม้
เขตคลองเตย
คลองเตย
คลองตัน
พระโขนง
เขตสวนหลวง
สวนหลวง
เขตจอมทอง
บางขุนเทียน
บางค้อ
บางมด
จอมทอง
เขตดอนเมือง
สีกัน
ดอนเมือง
สนามบิน
เขตลาดพร้าว
ลาดพร้าว
จรเข้บัว
เขตบางแค
บางแค
บางแคเหนือ
บางไผ่
หลักสอง
เขตหลักสี่
ทุ่งสองห้อง
ตลาดบางเขน
เขตสายไหม
สายไหม
ออเงิน
คลองถนน
เขตคันนายาว
คันนายาว
รามอินทรา
เขตสะพานสูง
สะพานสูง
เขตวังทองหลาง
วังทองหลาง
สะพานสอง
คลองเจ้าคุณสิงห์
พลับพลา
เขตคลองสามวา
สามวาตะวันตก
สามวาตะวันออก
บางชัน
ทรายกองดิน
ทรายกองดินใต้
เขตทวีวัฒนา
ทวีวัฒนา
ศาลาธรรมสพน์
เขตบางบอน
บางบอน
รวมพื้นที่ประสบอุทกภัย 42 เขต 142 แขวง

วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555

ประกันสังคม ทำแล้วได้อะไรบ้าง

     ทุกเืดือนพอได้เปิดสลิปเงินเืดือนออกดู แล้วเห็นว่าถูกหักเงินประกันสังคมไป 750 บาท ก็รู้สึกว่าจ่ายไปตามที่กฏหมายกำหนด แต่เหมือนจะไม่เคยได้อะไรจากประกันสังคมเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเงิน 750 บาทที่ถูกห้กไปนั้น เอาไปทำอะไรบ้าง? วันนี้เรามาหาคำตอบกันดีกว่าครับ

   สำหรับคนที่ทำงานเป็นพนักงานบริษัท จะต้องถูกหักเงินประกันสังคม เืดือนละ 5% ของเงินเืดือน แต่ไม่เกิน 750 บาท แสดงว่าหากท่านได้รับเงินเืดือนมากกว่า 15,000 บาท ประกันสังคมก็จะหักจากคุณ มากสุด 750 บาท ไม่มากไปกว่านี้ครับ (การคำนวณว่าแต่ละึคนจะต้องจ่ายเท่าไร คำนวณจากฐาน ค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับตามความเป็นจริงซึ่งกำหนดเพดานค่าจ้างสูงสุดและต่ำ สุดที่นำมาคำนวณเงินสมทบคือ สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท และเงินค่าจ้างขั้นต่ำคือ ไม่ต่ำกว่า 1,650 บาท ดังนั้นเงินที่นายจ้างต้องจ่ายสำหรับลูกจ้าง แต่ละคนในแต่ละเดือน สูงสุด 750 บาท และต่ำสุด 83 บาท)


     ซึ่งตอนนี้ ทางสำนักงานประกันสังคม ได้มีการลดอัตราเงินสมทบของปี 2555 โดย ( สำหรับนายจ้างและมาตรา33)
        ครึ่งปีแรก จ่ายในอัตราร้อยละ 3 ลดลงจากเดิมร้อยละ 2
        ครึ่งปีหลัง จ่ายในอัตราร้อยละ 4 ลดลงจากเดิมร้อยละ 1

    โดยเงินประกันสังคมที่ถูกหักไปนั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
        เงินสมทบกรณีเจ็บป่วย จำนวน 30%
        เงินสมทบกรณีชราภาพ จำนวน 60%
        เงินสมทบกรณีว่างงาน จำนวน 10%

     เช่น ถ้าท่านส่งจำนวนเงินสมทบประกันสังคม 750 บาทต่อเดือน เงินจะถูกแบ่งเป็น
        เงินสมทบกรณีเจ็บป่วย จำนวน 30% หรือ 225 บาท
        เงินสมทบกรณีชราภาพ จำนวน 60%  หรือ 450 บาท
        เงินสมทบกรณีว่างงาน จำนวน 10%  หรือ 75 บาท

     โดยสิทธิประโยชน์จากประกันสังคมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
        กองทุนประกันสังคม มีผลประโยชน์ต่างๆดังนี้
            กรณีคลอดบุตร
            กรณีทุพพลภาพ
            กรณีเสียชีวิต
            กรณีสงเคราะห์บุตร
            กรณีชราภาพ
            กรณีว่างงาน
            ผู้ประกันตนมาตรา 39
            ผู้ประกันตนมาตรา 40

        กองทุนเงินทดแทน มีผลประโยชน์ต่างๆดังนี้
            กรณีประสบอันตรายหรือเป็นโรคจากการทำงาน
            กรณีทุพพลภาพเนื่องจากการทำงาน
            กรณีตายหรือสูญหายจากการทำงาน
            วิธีการส่งตัวลูกจ้างเข้ารักษาพยาบาล
            หลักฐานที่ต้องใช้ยื่นเรื่อง
            หลักการปฏิบัติและหน้าที่ของนายจ้าง ลูกจ้าง

     คุณสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ website สำนักงานประกันสังคม

     แนะนำว่าให้คุณสมัครสมาชิกกับทาง website สำนักงานประกันสังคม เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบ รายละเอียดต่างๆ ผ่านทาง website ได้ด้วย สะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะรายละเอียดการจ่ายประกันสังคมในแต่ละเืดือน หลายท่านคงจะจำไม่ได้ว่าเราจ่ายประกันสังคมไปแล้วกี่เดือน เคยใช้สิทธิประโยชน์ทดแทนอะไรไปบ้าง ใน website ตรวจสอบได้หมดครับ

หลังจากสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว ให้เลือกที่หัวข้อ "ตรวจสอบข้อมูลประกันสังคม" ในหัวข้อ สำหรับผู้ประกันตน และเลือกหัวข้อ ข้อมูลการส่งเงินสมทบ ท่านก็จะสามารถตรวจสอบระละเอียดแต่ละเดือนว่า่ จ่ายค่าประกันสังคมไปเท่าไร จ่ายมาแล้วทั้งหมดกี่เดือน โดยระบบจะแสดงข้อมูลเป็นรายปีครับ



     อีกหัวข้อนึงที่น่าสนใจมากๆคือ การคำนวณเงินสงเคราะห์ชราภาพ เพราะในแต่ละเดือนเราจ่ายส่วนของ เงินสมทบกรณีชราภาพถึง 60% ซึ่งพอเข้าไปดูจะเห็นว่าจะมีส่วนของ จำนวนเงินสมทบของนายจ้าง จ่ายให้ในจำนวนที่เท่าๆกับเรา และระบบก็จะคำนวณให้ดูว่าปัจจุบัน เรามีเงินสงเคราะห์ชราภาพอยู่เท่าไร โดยกรณีชราภาพ จะุถูกแบ่งออกเ็ป็น 2 แบบคือ

     แบบบำนาญชราภาพ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
         จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
         มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
         ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง

     และแบบบำเหน็จชราภาพ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
        จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
        ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
        มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย

รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หน้านี้ ครับ


     ผลประโยชน์ของเรา เราควรทราบไว้นะครับ
 

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

Dtac กับโปรโมชั่น Summer Special Smart phone ลดสูงสุด 10,000 บาท

     ช่วงนี้โทรศัพท์มือถือแต่ละค่ายออกโปรโมชั่นมาแข่งขันกันเยอะเหลือเกิน ถือเป็นโชคดีของของผู้บริโภค ที่จะมีทางเลือกมากขึ้น ถึงแม้จะเลือกได้ไม่ทุกทางก็เถอะ


     คราวนี้ทางค่าย Dtac ได้ออก โปรโมชั่น Summer Special โดยเน้นไปทาง Smart phone ที่มีส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท ซึ่งจะมี Smart phone 3 ค่ายที่เข้าร่วมรายการนี้ คือ iPhone, Samsung, HTC รวมทั้งหมด 7 รุ่น โดยจะไม่มีสัญญา ไม่มีค่าปรับ โปรโมชั่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง มาดูรายละเอียดกันครับ

     ผู้ที่สามารถใ้้ช้สิทธิ์ส่วนลดได้นั้น แบ่งออกเป็นสองประเภทคือ
          -ลูืกค้า Dtac ที่มือายุการใ้ช้งาน 1 ปี ขึ้นไป และค่าใช้บริการรายเดือนที่เรียกเก็บแล้วในเืดือนล่าสุด 1,200 บาทขึ้นไป ใช้คำว่า "และ" แสดงว่าต้องเ็ป็นจริงทั้ง 2 ข้อนะครับ
          -ลูกค้า Dtac ปัจจุบันและลูกค้าใหม่

     ส่วนลดที่ให้มาก็ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเช่นกันครับ
          -ลดราคาค่าเครื่อง (ในแต่ละสิทธิ์ แต่ละรุ่นจะได้ส่วนลดไม่เ่ท่ากันนะครับ) และ
          -ลดราคาค่าบริการ ซึ่งท่านจะได้ส่วนลด 300 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 18 เดือนติดต่อกัน แต่ท่านจะต้องใช้ แพ็กเกจสมาร์ทโฟน 899 เท่าั้นั้น

     ลูืกค้า Dtac ที่มือายุการใ้ช้งาน 1 ปี ขึ้นไป และค่าใช้บริการรายเดือนที่เรียกเก็บแล้วในเืดือนล่าสุด 1,200 บาทขึ้นไป จะได้รับส่วนลดค่าเครื่องสูงสุดในโปรโมชั่นนี้
                รุ่นที่ลดราคาเครื่องมากที่สุดคือ iPhone 4S (64 GB) จากราคา 30,250 บาท ลดเหลือ 26,730 บาท ลดราคาเรื่องไป 3,520 บาท
               iPhone 4S (32 GB) ลดราคาค่าเครื่องไป 2,680 บาท
               iPhone 4S (16 GB) ลดราคาค่าเครื่องไป 2,550 บาท
               iPhone 4S (8 GB) ลดราคาค่าเครื่องไป 2,550 บาท
               Samsung Galaxy Note ลดราคาค่าเครื่องไป 500 บาท
                Samsung Galaxy SII ลดราคาค่าเครื่องไป 500 บาท
                HTC Sensation XL ลดราคาค่าเครื่องไป 1,600 บาท

          ลูกค้า Dtac ปัจจุบันและลูกค้าใหม่ ได้รับส่วนลดค่าเครื่องดังนี้ครับ
               iPhone 4S (64 GB) ลดราคาค่าเครื่องไป 850 บาท
               iPhone 4S (32 GB) ลดราคาค่าเครื่องไป 850 บาท
               iPhone 4S (16 GB) ลดราคาค่าเครื่องไป 750 บาท
               iPhone 4S (8 GB) ลดราคาค่าเครื่องไป 600 บาท
               ส่วน Samsung Galaxy Note, Samsung Galaxy SII และ   HTC Sensation XL  ไม่มีส่วนลดราคาค่าเครื่องครับ

     และท่านยังสามารถเลือกผ่อน 0% นาน 6 เดือน โดยมีบัตรต่างๆเข้าร่วมรายการอยู่เยอะพอสมควรเลยครับ


               ถึงแม้จะลดราคาค่าเครื่องไม่มากเท่ากับของทาง True ทั้ง 2 โปรโมชั่น ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นของลูกค้าเก่า หรือ โปรโมชั่นสำหรับพนักงานของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่เพิ่งออกมาใหม่ แต่ โปรโมชั่นทาง Dtac จะไม่มีสัญญา ไม่มีค่าปรับ และสามารถ ผ่อน 0% นาน 6 เดือน กับบัตรที่ร่วมรายการได้

     ชอบแบบไหน ค่ายไหน พิจารณาให้รอบครอบ แล้วค่อยตัดสินใจครับ.

วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2555

True move H กับโปรโมชั่น iPhone 4 | iPhone 4s ลด 50% สำหรับพนักงานบริษัทที่จดทะเบียนใน SET หรือ MAI


     หลังจาก True move-H ได้ออกโปรโมชั่น  iPhone 4 | iPhone 4s ลด 50% โดยให้สิทธิ์กับลูกค้า True online หรือ true vision ที่ใช้งานต่อเนื่องกันมาอย่างน้อย 12 เดือน รายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ครับ ตอนนี้ เค้ายังได้ออกโปรโมชั้นเพิ่มเติมขึ้นมาให้เป็นทางเลือกอีกหนึ่งช่องทาง โดยรายละเอียดจะคล้ายๆกัน เพียงแต่ผู้ที่มีสิทธิ์ใช้โปรโมชั่นได้ คือ พนักงานของบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งท่านสามารถตรวจสอบ รายชื่อบริษัทที่ร่วมโครงการได้ที่นี่ครับ


     หลักฐานที่จะต้องใช้ ก็มี สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, สำเนาบัตรพนักงาน, สำเนาสลิปเงินเดือนเดือนล่าสุด ซึ่งท่านสามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้า โทร 1331 ครับ

     ถ้าพูดถึงความคุ้ม รายละเอียดไม่ต่างกับคราวก่อนที่วิเคราะห์ไว้แล้ว ในหัวข้อ True move H กับโปรโมชั่น iPhone 4 | iPhone 4s ลด 50% คุ้มหรือป่าว !! ตามนั้นเลยครับ

จ่ายเงินแต่ละครั้ง พิจารณาให้รอบครอบ แล้วค่อยตัดสินใจครับ.