วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

ซื้อของเงินสด หรือเงินผ่อน เลือกอย่างไหนดี ??

     สัปดา์ห์ก่อน พี่ที่บริษัทเล่าให้ฟังว่า ไปซื้อ LCD TV 40 นิ้ว ตอนแรกกะว่าจะจ่ายด้วยเงินสดหรือรูดบัตรแบบชำระเต็มราคา แต่กลายเป็นว่า หากเลือกแบบผ่อนชำระเป็นรายเดือน จะได้ดอกเบี้ย 0% และได้ส่วนลดเพิ่มเิติม และยังมีของแถมให้ด้วยอีกนิดหน่อย สุดท้ายเลยเลือกชำระเป็นรายเดือน ดอกเบี้ย 0% ไป


     โดยปรกติแล้ว การซื้อของด้วยเงินสดหรือรูดบัตรแบบชำระเต็มราคา น่าจะได้ราคาที่ถูกที่สุด แต่ปรากฏว่า ตอนนี้แบบผ่อนชำระเป็นรายเดือน ดอกเบี้ย 0% ทำให้เราได้สินค้าในราคาที่ถูกกว่า

     นั่นคงเป็นเพราะว่าทางเจ้าของบัตรเครดิตทั้งหลายคงมีข้อมูลอยู่ในมือ ว่าลูกค่าส่วนใหญ่จะไม่สามารถปฏิบัติตามที่ตกลงกันไว้ในตอนแรก ไม่ว่าจะเป็นการชำระช้า หรือชำระน้อยกว่าที่กำหนด สุดท้ายก็ต้องเสียค่าดอกเบี้ยให้กับทางบัตรเครดิตไป จึงได้ทำโปรโมชั่นแบบนี้ขึ้นมา หลอกล่อให้เราเลือกแบบผ่อนไปก่อน แล้วค่อยมาวัดดวงกันว่า จะได้กินดอกเบี้ยลูกค้าหรือไม่

     ฉะนั้น หากต้องการซื้อของ โดยเลือกแบบผ่อนชำระเป็นรายเดือน ดอกเบี้ย 0% คุณจะต้องมั่้นใจว่าสามารถจ่ายได้ครบตามที่กำหนดไว้ สัญญากับตัวเองไว้ก่อนเลยว่า "ข้าจะไม่ยอมเสียดอกเบี้ยให้กับบริษัทบัตรเครดิตแม้แต่บาทเดียว !!"

     ถ้าดูแล้วว่าไม่สามารถชำระตามกำหนดได้ สินค้าตัวนั้น มันอาจจะคงยังไม่เหมาะกับเราในตอนนี้นะครับ

     ยกเว้นแต่ว่าซื้อมาแล้ว สามารถหารายได้ให้เราเพิ่มมากขึ้น ก็ถือว่าซื้อมาเพื่อลงทุนครับ

     ใช้บัตรเครดิตให้เป็น ไม่เสียดอกเบี้ย แถมยังได้คะแนนเอาไ้ว้แลกของหรือเป็นส่วนลดได้อีก (บัตรเครดิตบางเจ้า ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีนะครับ ลองศึกษาดีๆก่อนสมัครครับ)

     ไม่เป็นหนี้ใคร สบายใจกว่าเยอะครับ

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33: โครงการรถคันแรก

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 33 ได้เริ่มขึ้นแล้วที่เมืองทองธานี รายละเอียดการจัดงานในวันต่างๆ มีดังนี้


วัน เวลาการจัดงาน: วันที่ 26 มีนาคม - 8 เมษายน 2555
วันวีไอพี: วันที่ 26 มีนาคม 2555 / เวลาเปิด 12.00 น. เวลาปิด 20.00 น.
วันสื่อมวลชนและพิธีเปิด: วันที่ 27 มีนาคม 2555 / เวลาเปิด 09.59 น. เวลาปิด 18.00 น
วันแสดงงาน: วันที่ 28 มีนาคม– 8 เมษายน 2555
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลาเปิด 11.00 น. เวลาปิด 22.00 น.
วันธรรมดา เวลาเปิด 12.00 น. เวลาปิด 22.00 น.


      ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นรถยนต์คันแรกตามนโยบายรัฐบาล รายละเอียดเพิ่มเติมที่ website ของกรมสรรพสามิตครับ สำหรับรถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัวกันไม่นานมานี้ ไม่ว่าจะเป็น suzuki swift, nissan almera, mitsubishi mirage ทางกรมสรรพสามิตได้เพิ่มรายละเอียด ว่ารถแต่ละรุ่นจะไ้ด้เงินภาษีคืนเท่าไร สามารถดูได้ที่ ข้อมูลยอดเงินสนับสนุนสำหรับรถยนต์คันแรก สำหรับรถยนต์นั่ง สำหรับของรถกระบะ ให้ดูในหัวข้อ สอบถามข้อมูลยอดเงินสนับสนุนสำหรับรถยนต์คันแรก (PDF File) ใน link ของกรมสรรพสามิตได้เลยครับ


     มีโปรโมชั่นแบบนี้ น่าสนใจจนต้องไปออกรถกันเลยหรือเปล่า ??? ลองมาดูกันครับ

     ก่อนอื่นท่านจะต้องมีคุณสมบัติ ตามที่ทางกรมสรรพสามิตระบุไว้
           อายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
           เป็นรถยนต์ใหม่คันแรก ที่ซื้อตั่งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 ถึง 31 ธันวาคม 2555 (ถ้าจำไม่ผิด จะต้องโอนก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2555 นะครับ )
           ต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี
           จะได้รับเงินคืนหลังจากถือครองรถครบ 1 ปี
           ขนาดของเครื่องรถยนต์จะต้องไม่เิิกิน 1,500 cc.
     รายละเอียดเพิ่มเติม ตาม link นี้เลยครับ

     เรามาลองดูค่าใช้จ่ายต่างๆกันดูครับ ว่ามีอะไรบ้าง

     การซื้อรถโดยวิธีการกู้ วิธีคำนวณเงินกู้สำหรับรถยนต์จะเป็นแบบ Flat Rate คือ ไม่ลดต้น ยกตัวอย่างเช่น New Mazda2 Elegance รุ่น Maxx ATราคา 695,000 บาท ซึ่งตอนนี้มีโปรโมชั่น ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน จะคิดดอกเบี้ยที่ 2.35%

     ราคารถ 695,000 บาท ดาวน์ 25% หรือ 173,750 บาท จะเหลือยอดเท่ากับ 521,250 บาท
อัตราดอกเบี้ย 2.35% ผ่อน 48 เดือนหรือ  4 ปี ฉะนั้น
     ดอกเบี้ยทั้งหมด  (521,250*0.0235)*4 = 48,997.5 บาท (สำหรับรถใหม่ รู้สึกว่าไม่มีภาษี vat 7% นะครับ) และจะต้องผ่อนเดือนละ  (521,250+48,997.5)/48 = 11,880 บาท เป็นเวลา 4 ปี

     ถ้าเป็นไปได้ เก็บเงินซื้อแบบจ่ายสดครั้งเดียวจะดีกว่าครับ จะได้ไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยถึง 48,997.5 บาท

เมื่อคุณมีรถแล้ว ค่าใช้จ่ายที่จะต้องมีเำพิ่มขึ้นคือ

      ประกันรถยนต์ ต้องจ่ายทุกปี ราคามีตั้งแต่ พันต้นๆไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับว่าจะทำประกันแบบไหน

      พ.ร.บ. รถยนต์ เป็นประกันภัยพื้นฐานที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคันต้องทำ โดยมุ่งเน้นความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ จะใช้ยื่นประกอบการต่อภาษีรถยนต์ ราคาเิริ่มต้นที่ 500 กว่าบาท

      ภาษีรถยนต์ จ่ายทุกปี รายละเอียดในการคำนวณสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน จะมีอัตรา ดังนี้
          0-600cc cc ละ 0.50 บาท
          601 - 1,800cc cc ละ 1.50 บาท
          เกิน 1,800cc cc ละ 4.00 บาท
          Mazda2 มีขนาดของเครืองเท่ากับ 1,499 cc = (600*0.5)+(899*1.5)= 1,648.5 บาท
     ถ้าหากเป็นรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี ให้ได้รับการลดหย่อนภาษีประจำปีในปีต่อ ๆ ไป ดังนี้
                    ปีที่ 6 ร้อยละ 10
                    ปีที่ 7 ร้อยละ 20
                    ปีที่ 8 ร้อยละ 30
                    ปีที่ 9 ร้อยละ 40
                    ปีที่ 10 และปีต่อ ๆ ไป ร้อยละ 50

    
     ค่าดูแลรักษาซ่อมบำุรุง ไม่ว่าจะเป็นตรวจcheck ตามระยะทาง หรือ ซ่อมเมื่อพบปัญหา ประมาณเกือบๆ 3,000 บาทต่อเดือน หรือคิดง่ายๆก็ปีละประมาณ 30,000 บาท  รถยิ่งเก่า ยิ่งต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้น

     ค่าน้ำมัน ขึ้นอยู่กับระยะทางการใช้งานกับระบบของรถยนต์ของท่าน ถ้าเ็ป็นระบบแก๊สก็จะถูกว่าน้ำมันแน่นอน หากคิดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงแบบระบบน้ำมัน ตามที่เคยมีคนรีวิว รถรุ่นนี้ไว้ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยของ mazda 2 จะอยู่ที่ประมาณ 15 กิโลเมตร/ลิตร คิดค่าน้ำมันง่ายๆ ลิตรละ 40 บาท (เบนซิน ออกเทน 91) ค่าใช้จ่ายน้ำมันจะอยู่ที่ กิโลเมตรละ 40/15 = 2.66 บาทโดยประมาณ คิดเฉลีี่ยการเดินทางแต่ละวันประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้รถทุกวัน ค่าน้ำมันต่อเดือนจะอยู่ที่ 2.66*40*30 = 3,192 บาท ต่อปีจะเท่ากับ 38,304 บาท

     รวมค่าใช้จ่ายต่อปี 
          ประกันชั้นหนึ่ง 10,000 บาท
          พ.ร.บ. รถยนต์ 500 บาท
          ภาษีรถยนต์ 1,648.5 บาท
          ค่าดูแลรักษาซ่อมบำุรุง 30,000 บาท
          ค่าน้ำมัน 38,304 บาท
     คิดเป็นจำนวณเงิน 80,452.5 บาทต่อปี  
     หรือมีค่าใช้จ่ายเรื่องรถยนต์เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 6,704 บาทต่อเดือน
     ถ้าเป็น 4 ปีแรกที่ยังต้องผ่อนรถอยู่ จะต้องจ่ายรวม 11,880+6,704 = 18,584 บาทต่อเดือน

ทีนี้ลองมาตอบคำถามข้างล่างนี้ดูนะครับ

     มีรถแล้วจะทำให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ??
     มีรถแล้วจะทำให้ชีวิตเรามีัความปลอดภัยมากขึ้นหรือไม่ ??
     มีรถแล้วทำให้เรามีสุขภาพดีขึ้นหรือไม่ ??
     มีรถแล้วทำให้เราพบหน้าคนที่เรารัก พบหน้าครอบครัวเรามากขึ้นหรือป่าว ??
     มีรถแล้วทำให้คุณเป็นหนี้เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ ??
     มีรถแล้วทำให้คุณเดือนร้อนเรื่องการเงินหรือไม่ ??
     มีรถแล้วทำให้คนรอบๆตัวคุณเดือดร้อนเรืองเงินหรือไม่ ??

     คำถามข้างต้นอยากจะชี้ให้เห็นว่า ก่อนจะซื้อรถ เราควรเข้าใจตัวเราเองให้ดีก่อน ว่าจะซื้อรถมาเพื่ออะไร เป็นคำถามที่จะต้องตอบให้ได้ก่อนครับ
      ท่านผู้หญิงที่จะต้องเดินทางไปทำงานช่วงเช้ามืดหรือกลับบ้านตอนที่ดึกแล้ว หรือจะต้องเดินทางผ่านเส้นทางที่เปลี่ยว มีรถแล้วคงทำใ้ห้คุณปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น
      บางท่านมีรถแล้ว สามารถหาลูกค้าได้มากขึ้น เสนองานให้ลูกค้าได้มากขึ้น ก็มีความน่าจะเป็นที่จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย
       บางท่านไปทำงานออกจากบ้าน ตี 5 กลับมาถึงบ้าน 3 ทุ่ม แต่ถ้ามีรถ ออกจากบ้าน 6 โมงครึ่ง ถึงบ้าน ทุ่มครึ่ง มีเวลาเพิ่มมากขึ้น วันละ  3 ชั่วโมง จะได้มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเองเพิ่มมากขึ้น มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นด้วย
       
     หากตอบคำถามเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน ว่าต้องการรถไปเพื่ออะไร โปรโมชั่นรถคันแรก ผมถือว่าเป็น โบนัส สำหรับคนที่พร้อมและต้องการจะมีรถจริงๆครับ สำหรับท่านใดที่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อรถมาเพื่ออะไร และตัดสินใจซื้อรถช่วงนี้เพราะต้องการได้โปรโมชั่นรถคันแรก ผมไม่เห็นด้วยนะครับ

     แน่นอนครับ มีรถเป็นของตัวเอง ย่อมสะดวกกว่าโดยสารรถยนต์สาธารณะอยู่แล้ว แต่อย่าให้ความสะดวกสบายมาปิดบังข้อเทจจริงอื่นๆที่จำเป็นต้องพิจารณานะครับ ถ้าคุณมีความพร้อมทางการเงินอยู่แล้ว ตัดสินใจไม่ยากครับ แต่ถ้าการเงินยังไม่พร้อม คิดให้หนักครับ

รายรับ-รายจ่ายของคุณ คุณรู้ดีที่สุดครับ.

จ่ายเงินแต่ละครั้ง พิจารณาให้รอบคอบ แล้วค่อยตัดสินใจครับ.

วันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2555

ME BY TMB ดอกเบี้ยสูง ได้ใจ

      นึกถึงเมื่อ 20-25 ปีที่แล้ว ดอกเบี้ยเงินฝากสูงมาก ออมทรัพย์น่าจะถึงประมาณ10% ต่อปี ข้อมูลที่พอจะหาได้จากธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2539

      ดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ 5%
      ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน 10.5-11.5%
      ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน 10.25-10.75%
      ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน 10.25-10.75%

      คิดเล่นๆถ้าคุณมีเงินอยู่ 2.4 ล้าน เอาไปฝากออมทรัพย์ แล้วได้ดอกเบี้ย 5% พอครบกำหนดหนึ่งปี จะได้ดอกเบี้ย 120,000 บาท หรือ 10,000 บาทต่อเดือนโดยประมา๊ณ และจะได้อย่างนี้ต่อๆไป ตราบใดที่ดอกเบี้ยออมทรัพย์เท่ากับ 5%

      ปัจจุบันดอกเบี้ยออมทรัพย์ 0.75% เห็นแล้ว น้ำตาจะไหล.........

      แต่ก็ยังพอมีธนาคารทำโปรโมชั่นเงินฝากมาซับน้ำตาคนยากบ้าง


      ล่าสุด ธนาคารทหารไทย ซึ่งช่วงหลังๆจะสังเกตุเห็นว่า พยายามจะเป็นผู้นำทางด้านการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากก็ว่าได้ ได้ออกสินค้าตัวใหม่ ME by TMB หรือบัญชี ME ฝากไม่ประจำ ซึ่งคุณจะได้

      -ดอกเบี้ยสูง
           สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของ ME คุณสามารถดูได้จากข้างล่างนี้
             ยอดเงิน 10 ล้านบาทแรก                                            3.50% (ต่อปี)
             ยอดเงินส่วนที่เกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป                             0.50% (ต่อปี)
      ( จริงๆแล้วอัตราดอกเบี้ยจะเป็นแบบลอยตัวตามประกาศทางธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ทาง ME by TMB จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า ออมทรัพย์ของธนาคารอื่นเสมอ ซึ่งจะตรวจสอบได้ที่หน้า website ME by TMB )
      -ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ กี่ครั้งก็ได้
      -ไม่มีขั้นต่ำ
      -ไม่กำหนดระยะเวลาฝาก

     รูปแบบของ ME by TMB นั้นจะเป็นการบริการตัวเองซะส่วนใหญ่ โดยจะต้องทำเรื่องขอเปิดบัญชีทาง internet ก่อน และนำหลักฐานไปยืนยันตัวตนด้วยตัวเองที่ ME by TMB สาขาที่ท่านสะดวก

ME Place เซ็นทรัลเวิลด์
    อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 (โซนบีทูเอส)
    เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.30 น. – 21.00 น.

ME Place เอสพละนาด
    ศูนย์การค้าเอสพละนาด ซีนีเพล็กซ์ รัชดาภิเษก ชั้น 2
    เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 20.00 น.

ME Place สีลม
    อาคารอาคเนย์ประกันภัย ชั้น G
    เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น.– 20.00 น.

     หลังจากยืนยันตัวบุคคลเรียบร้อยแล้ว ท่านจะได้ card ยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชี โดยคุณจะสามารถทำธุรกรรมผ่านทาง internet เท่านั้น ส่วนการโอนเงินออก จะสามารถโอนไปยังบัญชีออมทรัพย์ที่คุณผูกไว้เมื่อตอนสมัครขอเปิดบัญชีได้เท่านั้น ( ถ้าเป็นบัญชีของธนาคารทหารไทย จะไม่เสียเงินค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมนะครับ )

     แต่เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2555 หน้า website ที่ให้รายละเอียดของ ME by TMB ถูกผู้ไม่หวังดีเปลี่ยนหน้า webpage ไปช่วงเวลาหนึ่ง รายละเอียด สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ อธิบายให้เข้าใจง่ายๆคือ บ้านของ website ที่ให้รายละเอียด กับ บ้านของ website ที่ให้บริการ ME by TMB เป็นบ้านคนละหลังกัน บ้านของ website ที่ให้รายละเอียด ไปเช่าเค้าอยู่ ระดับการรักษาความปลอดภัยถือว่า ยังไม่ดีพอ ส่วน บ้านของ website ที่ให้บริการ ME by TMB เป็นบ้านของ ธนาคารทหารไทยเลย ระดับการรักษาความปลอดภัย อยู่ในระดับมาตราฐานของธนาคารชั้นนำ


    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้หลายๆคนรู้สึกกังวลกับการให้บริการ เราลองมาวิเคราะห์กันดูครับ


      -ME by TMB อยู่ในความคุ้มครองของ พรบ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เหมือนกับการฝากเงินธนาคารทั่วไป
      -ME by TMB จะถอนเงินออกได้เฉพาะกับบัญชีออมทรัพย์ที่คุณผูกไว้เมื่อตอนสมัครขอเปิดบัญชีเท่านั้น ถึงคนอื่นจะสามารถเข้าไปใช้ account เราได้ แต่ไม่สามารถโอนไปที่อื่นได้เลย
      -ในกรณีที่ระบบมีปัญหา ทาง ME by TMB มีระบบสำรอง ( backup ) ทำงานอยู่ตลอดเวลา ให้ความมั่นใจได้ว่า สามารถตรวจสอบข้อมูลได้แน่นอน
      -ก่อนการทำธุรกรรม หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัวที่สำคัญทุกครั้ง ระบบของ ME by TMB จะทำการจัดส่งรหัสผ่านแบบใช้ครั้งเดียวหรือ (One Time Password – OTP) ผ่านทาง SMS เพื่อให้คุณได้ยืนยันรหัส OTP ดังกล่าว ก่อนทุกครั้ง

    จะเห็นได้ว่าระบบจะมีการป้องกันอยู่หลายระดับ เืพื่ิอความปลอดภัยที่มากขึ้น สำหรับผมแล้ว หากผู้ใช้งานมีความเข้าใจในระบบ ใช้งานอย่างถูกขั้นตอน ME by TMB มีความปลอดภัยที่สูงเทียบเท่าหรือสูงกว่า internet banking ของธนาคารอื่นๆแน่นอนครับ

     มีคนถามค่อนข้างบ่อยว่า ดอกเบี้ย ME by TMB คำนวณจากแบบเงินต้นคงที่ แล้วมันจะได้มากหรือน้อยกว่า ดอกเบี้ยที่ทบตันละ ผมเลยคำนวณง่ายๆบน excel เทียบกับ การฝากเงินออมทรัพย์ที่คิดแบบทบต้น โดยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่มีอยู่จริงๆในตอนนี้ คือ บัญชีฝากไม่ประจำของ TMB นี่ละ


     จะเห็นว่าในจำนวนเงินต้นที่เท่ากัน ME by TMB ให้ดอกเบี้ย 3.5% จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าถึง 30% โดยประมาณ โดยเทียบกับการคำนวนบัญชีออมทรัพย์ที่คิดแบบทบต้น ดอกเบี้ย 2.25%
(หากจะให้ได้ดอกเบี้ยที่เท่ากัน บัญชีออมทรัพย์ที่คิดแบบทบต้นจะต้องมีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3.02% ต่อปีครับ)
   
     หากคุณมีเงินก่อนที่ไม่ได้เอาไปทำอะไร หรือยังไม่มีแผนที่จะใช้มัน หากมองเฉพาะเงินฝากออมทรัพย์ ไม่รวมถึงการลงทุนประเภทอื่น ผมว่า ME by TMB น่าสนใจที่สุด ในช่วงนี้นะครับ


Note: คุณสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยการ chat ผ่านทาง ME by TMB web chat

 ลงทุนแต่ละครั้ง พิจารณาให้รอบครอบ แล้วค่อยตัดสินใจครับ. 

ขอขอบพระคุณ คุณ Sumate jitpukdebodin เจ้าของ blog http://r00tsec.blogspot.com ที่ให้ความรู้พวกเราด้วยครับ

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

ดีล อีกหนึ่งทางเลือก ของคนชอบของถูก

     หลายๆท่านอาจจะได้เป็นลูกค้าของดีลหลายๆแห่งแล้ว แต่สำหรับท่านที่ยังไม่ทราบว่าดีลคืออะไร เราลองมาดูกันครับ


     ดีล หรือ web deal คือ website ที่ให้บริการ "จ่ายก่อน แล้วค่อยใช้บริการ" ทาง web deal ได้มีการตกลงกับร้านค้า ร้านอาหารหรือผู้ให้บริการต่างๆไว้ก่อนแล้ว โดยมีข้อกำหนดในแต่ละครั่งแตกต่างกัน ซึ่ง web deal จะมีการ update ดีลใหม่ๆอยู่เรื่อยๆ เราจะทำการสมัครรับข้อมูลจาก web deal นั้นๆโดยให้ส่ง e-amil มาแจ้งเตือนเมื่อมีการ update ดีลใหม่ๆ หรือเข้าไปที่ web deal เองก็ได้ครับ


     เมื่อเราดูแล้วรู้สึกว่า ดีล ไหนหน้าสนใจ ให้ทำการศึกษารายละเิอียดอย่างถีถ้วนก่อนนะครับ อย่าเพิ่งใจร้อน  แนะนำให้หารายละเอียดเพิ่มเติม หรือหารีวิวร้านของคนที่เคยไปมาลองอ่านๆดูก่อนนะครับ

     รายละเอียดที่จำเป็นต้องทราบก่อนตัดสินใจซื้อ

        -ดีลนี้เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันไหน จนถึงวันไหน จะได้พิจารณาได้ว่าช่วงเวลานั้น เราว่างพอที่จะไปใช้บริการดีลหรือไม่
        -ดีลนี้ใช้ที่สาขาไหนได้บ้าง ตรวจสอบให้ดีๆนะครับ
        -ท่านซื้อได้ครั้งละกี่ใบ และสามารถใช้ได้กี่ใบในแต่ละครั้ง
        -เราจะได้อะไรจาก ดีลนี้บ้าง ส่วนใหญ่แล้ว รายละเอียดหรือเงื่อนไขถูกเขียนมาอย่างค่อนข้างละเอียดแล้ว แต่ถ้ายังมีส่วนไหนทียังไม่แน่ใจ ให้โทรไปสอบถามกับทาง webdeal ได้เลยครับ

     การจ่ายเิงิน web deal ส่วนใหญ่จะให้เราทำการสมัครสมาชิกก่อน แล้วจึงทำการชำระเงินได้ สามารถชำระเงินได้ทั้งบัตรเครดิตหรือโอนงานผ่านทาง i banking ของธนาคารต่างๆ แต่อาจจะมีค่าธรรมเนียมแตกต่างกันอยู่บ้าง

     การใช้ดีลในแต่ละที่อาจจะแตกต่างกันบ้างนิดหน่อย แต่ส่วนใหญ่จะให้ print ออกมาเป็นคูปองกระดาษ แล้วนำไปยื่นที่หน้าร้าน บ้างร้านจะ check serial ของดีล และให้เราเซ็นชื่อกำกับไว้ ผมเคยไปใช้ดีลชานมไ่ข่มุกที่ central ลาดพร้าว ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จะสามารถใช้ดีลได้ ไปซื้อช่วงเย็นตอนเซ็นชื่อกำกับ สังเกตุเห็นยังมีหลายท่านเลยที่ยังไม่ได้มาใช้ ดีล ทั้งๆที่เป็นวันสุดท้าย ฉะนั้นพิจารณาให้ดีๆนะครับ ดีลถูกจริง แต่ไม่ได้ไปใช้ เหมือนตั้งใจเอาเงินไปให้เค้าฟรีๆเลยนะครับ

จ่ายเงินแต่ละครั้ง พิจารณาให้รอบครอบ แล้วค่อยตัดสินใจครับ.


วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

True move H กับโปรโมชั่น iPhone 4 | iPhone 4s ลด 50% คุ้มหรือป่าว !!

            สำหรับท่านใดที่อยากจะได้ iphone ใจจะขาดจนจะลงแเดง โปรโมชั้นนี้น่าสนใจไม่น้อยเลย แต่สำหรับท่านใดที่ต้องการจะเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ โปรโมชั้นนี้ถือว่าเป็นหนึ่งตัวเลือกในชั่วนี้ เราลองมาดูกันว่ามีรายละเอียดอะไรกันบ้าง

ทาง True move H ได้ออกโปรโมชั่น iPhone 4 | iPhone 4s ลด 50% ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้
           -เป็นลูกค้า True online หรือ true vision ต่อเนื่องกันมาอย่างน้อย 12 เดือน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่ http://www.truemove-h.com/verify/  และสามารถใช้ได้ หนึ่งสิทธิ์ต่อหนึ่งเครื่องเท่านั้น
           -มีบัตรเครดิตเป็นของตนเอง (บังคับให้จ่ายผ่านทางบัตรเครดิตเท่านั้น)
           -จะต้องใช้บริการ Package XL ราคา 899 บาท นาน 18 เดือน (ยังไม่รวม Vat 7% ) 
           -บังคับจ่ายค่าบริการล่วงหน้า 7 เดือนแรก ( 899*7)+vat7% = 6,733.51 บาท โดยประมา๊ณ
           -มีเวลาตัดสินใจถึงวันที่ 12 เมษายน 2555

ส่วนราคาเครื่องที่ลด 50% แลัวนั้น มีดังนี้

iPhone 4 (8GB) ราคา 9,250 บาท
iPhone 4s (16GB) ราคา 13,500 บาท
iPhone 4s (32GB) ราคา 17,200 บาท
iPhone 4s (64GB) ราคา 21,200 บาท



สำหรับท่านที่ใช้งานทางด้านข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความบันเทิงหรือช่วยการทำงานให้สะดวกขึ้น สุดท้่ายก็คงต้องเลือก โปรโมชั่น 3G/EDGE/GPRS ไม่จำกัดอยู่ดี ( แต่จริงๆแล้วยังมี รายเืดือนในราคา 579 บาทและ ราคา 799 บาท ที่สามารถใช้ 3G/EDGE/GPRS ไม่จำกัดได้ ) โปรโมชั่นนี้จะทำให้คุุุณได้เครื่องในราคาแค่ครื่งเดียว ส่วนการรายเดือนล่วงหน้า 7 เดือน ไม่ว่าจะยังงัยคุณก็ต้องจ่ายอยู่แล้ว เพียงแค่จ่ายก่อนแล้วใช้ไปอีก 7 เดือนเท่านั้น

ส่วนท่านที่ใช้งานโทรศัพท์เอาไหวโทรจริงๆเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้ใช้งานข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์มากนักหรือแทบจะไม่ได้ใช้เลย ผมถืิอว่า โปรโมชั่นนี้แพงและไม่น่าสนใจ ตรงที่ต้องจ่ายรายเดือนที่แพงและอยู่กับมันถึง 18 เดือน ถืิอว่าไม่คุ้มกับที่จ่ายไป

การใช้งานของแต่ละคน ก็จะแตกต่างกันไปครับ บางท่านใช้โทรศัพท์เสมือนหนึ่งเป็น PC ส่วนตัว จนแทบไม่จำเป็นต้องเข้า internet ผ่านทาง PC Desktop ส่วนบางท่านที่บ้านต่อ internet ADSL อยู่แล้ว อยู่ที่ทำงานก็ ใช้ internet ที่ทำงานได้ เวลาเดินทางอยู่บนรถก็หลับซะส่วนใหญ่ แบบนี้ดูเหมือนได้มาแล้วจะใช้ไม่คุ้มนะครับ

ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะเห็นคนถึือโทรศัพท์รุ่นดีีๆ ราคาหลักหมื่นบาทขึ้นไปถือกันเป็นว่าเล่น แต่ถ้าคุณซื้อโทรศัพท์ราคาขนาดนี้มา แล้วไม่สามารถใช้ได้อย่างคุ็มค่า (แบบถึงที่สุดด้วยนะครับ) ผมคิดว่ายังมีโทรศัพท์รุ่นที่ราคาตั้งแต่ 5,000-9,900 บาท แต่สามารถใช้งานได้ดีพอสมควรเป็นตัวเลือกอีกนะครับ

จ่ายเงินแต่ละครั้ง พิจารณาให้รอบครอบ แล้วค่อยตัดสินใจครับ.